สำหรับ “ผ้าม่าน” ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน แถมยังช่วยจัดสรรปันส่วนให้บ้านมีพื้นที่ใช้สอยที่เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าการติดตั้งผ้าม่านจะต้องมี “รางหรือราวผ้าม่าน” เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งควบคู่กัน ซึ่งจะต้องวัดขนาดให้เหมาะสมกับขอบหน้าต่างด้วย ในวันนี้เราก็จะพาคุณไปดูพร้อม ๆ กันเลยว่า รางผ้าม่านที่ ร้านติดตั้งผ้าม่านนิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน จะมีอะไรกันบ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย 

ลักษณะของรางผ้าม่านที่ ร้าน ติด ตั้ง ผ้า ม่าน นิยมแบ่งตามรูปแบบการใช้งาน 

ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันร้านติดตั้งผ้าม่านนิยมใช้รางม่านที่มีความหลากหลายมากกว่าสมัยก่อนเป็นเท่าตัว ซึ่งรางม่านที่ร้านผ้าม่านยุคนี้นิยมใช้ก็มีดังต่อไปนี้ 

1. รางผ้าม่านระบบลูกล้อ  

สำหรับรางผ้าม่านประเภทนี้ หากติดตั้งผ้าม่านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวของผ้าม่านจะปิดรางม่านไปจนหมด แต่ผ้าที่สามารถใช้กับรางม่านประเภทนี้ได้ ก็จะมีเพียงม่านจีบหรือม่านลอนเท่านั้น เหมาะสำหรับติดตั้งในตำแหน่งหน้าต่างหรือประตูที่มีการใช้งานบ่อยครั้ง หรือหน้างานที่เตรียมหลุมฝ้า ไม่เน้นความสวยงามของรางผ้าม่านเท่าไหร่นัก 

การใช้งาน : สามารถใช้ด้ามจูงผ้าม่านหรือมือในการเปิดปิดก็ได้ หรือหากต้องการใช้เชือกในการดึงเปิดปิดก็ได้เช่นกัน แต่ร้านติดตั้งผ้าม่านไม่ค่อยแนะนำให้ใช้เชือกเท่าไหร่นัก เนื่องจากในระยะยาวอาจทำให้เสื่อมสภาพได้ 

2. รางผ้าม่านแบบรางโชว์ 

รางประเภทนี้จะแบ่งออกเป็นหลากหลายรูปแบบ ให้คุณได้เลือกใช้งานตามความพึงพอใจ ดังนี้ 

  • รางโชว์ที่ทำจากไม้ มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 26 มิลลิเมตร ใช้ไม้ตั้งแต่รางห่วงไปจนถึงขาจับราง มาพร้อมกับโทนสีน้ำตาลหรือสีธรรมชาติ ซึ่งมีตัวเลือกที่ค่อนข้างน้อย จึงเหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการความเป็นธรรมชาติมากกว่าบ้านโมเดิร์น 
  • รางโชว์ที่ทำจากอะลูมิเนียมลายไม้ โดยทั่วไปจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ 2 ขนาดด้วยกัน คือ ขนาด 26 มิลลิเมตร และขนาด 35 มิลลิเมตร มีหัวรางให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่มักทำจากพลาสติกรวมไปถึงห่วงที่ใช้สำหรับแขวนผ้าม่านด้วย 
  • รางโชว์ที่ทำจากสแตนเลส ส่วนใหญ่จะนิยมใช้สแตนเลสทำเฉพาะราวผ้าม่านเท่านั้น แต่ในส่วนของหัวราง ห่วง และขาจับจะทำมาจากเหล็กแทน 

ซึ่งต้องบอกก่อนว่ารางผ้าม่านในปัจจุบันมีมากมายหลากหลายรูปแบบ ชนิดที่ว่ามากกว่าที่ร้านติดตั้งผ้าม่านนำมาบอกต่อคุณเมื่อข้างต้นด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นรางผ้าม่านแบบโค้งดัดมือ รางผ้าม่านแบบพับ และอื่น ๆ ที่ล้วนแล้วแต่ให้บรรยากาศและสไตล์การตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในส่วนนี้คุณสามารถกำหนดได้เองอย่างอิสระ เพื่อให้ได้บ้านที่ตกแต่งออกมาได้ตอบโจทย์คุณมากที่สุดนั่นเอง